ความหมายของชื่อ                                                                                               

การเลือกใช้คำว่า ‘Home’ แทนคำว่า ‘House’ อาจมีความหมายว่า บ้าน เหมือนกันแต่คำว่า Home  จะสื่อถึงการอยู่อาศัยและการอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวมากกว่าเพราะคำว่า House สื่อถึงที่อยู่อาศัยในลักษณะเชิงอาคารและโครงสร้างเพียงอย่างเดียวซึ่งการเลือกใช้คำว่า Home จะช่วยยกระดับการอยู่อาศัยของทาวน์โฮมให้น่าอยู่อาศัยและมอบความรู้สึกอบอุ่นมากขึ้นยิ่งขึ้น

Townhouse

คืออาคารที่ใช้เพื่ออยู่อาศัยมีผนังทั้งสองด้านติดกับบ้านข้าง ๆ โดยบ้านแถวแต่ละหลังมีหน้าตาที่เหมือน ๆ กันตัวบ้านชิดติดกันเป็นแถบตั้งแต่ 2 หลังขึ้นไป มีหน้ากว้างประมาณ 4– 5 เมตร และมีความสูงไม่เกิน 3 ชั้นจุดเด่นของทาวน์เฮ้าส์ คือรูปแบบสังคมขนาดเล็ก ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นด้วยพื้นที่ใช้สอยที่ถูกออกแบบมาได้อย่างคุ้มค่ากับราคาเบาๆ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวขนาดเล็ก ลักษณะที่ตั้งของทาวน์เฮ้าส์มักจะอยู่ติดถนนภายในซอย เป็นคูหาติดกันหลาย ๆ หลังแต่หากอยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร มักจะไม่ค่อยมีพื้นที่ส่วนกลางเช่นสโมสรสระว่ายน้ำ หรือสวนส่วนกลาง ทำให้เป็นการแยกระหว่างบ้านใครบ้านมันอย่างชัดเจนไม่ใช่รูปแบบของชุมชนหมู่บ้าน

Townhome

เป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากคำว่าTownhouse มีแบ่งสัดส่วนกั้นห้องชัดเจน เช่น มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาในชั้นล่างด้วย สำหรับการทำเป็นห้องนอนของผู้สูงวัยหรือเป็นห้องทำงาน และสำหรับชั้นสองจะเป็นพื้นที่ในโซน Private ทั้งหมดเช่นเดียวกับทาวน์เฮ้าส์ แต่ทาวน์โฮมจะมีห้องนอน 2 -3 ห้อง และภายในห้องนอน Master bedroom ได้เพิ่มห้องน้ำภายในห้องและWalk-in closet ด้วย รวมถึงลักษณะที่ตั้งของทาวน์โฮมในปัจจุบันมักจะอยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรรและแทบทุกโครงการจะมีการเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางเหมือนโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดทุกอย่าง 

สรุป ทาวน์โฮมคือที่อยู่อาศัยที่ยกระดับมาจากทาวน์เฮ้าส์โดยเพิ่มความรู้สึกและความสะดวกสบายของการอยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและเป็นประเภทบ้านที่ทดแทนบ้านเดี่ยวได้ยิ่งกว่าเดิม